สาระน่ารู้ก่อนสุนัขจะคลอดลูก
กำหนดคลอดของแม่สุนัขนั้นอยู่ในราว
60-63 วัน หลังจากการผสมพันธุ์
การเตรียมจัดที่คลอด
จะต้องทำล่วงหน้า
การให้ความอบอุ่นแก่ลูกสุนัข
ขณะคลอดและหลังคลอด
2-3 วัน นับว่าสำคัญในอนาคตของ
ลูกสุนัขมาก ลูกสุนัขได้รับอุณหภูมิจากแม่ของมัน
ด้วยความร้อน 101.4 องศาฟาเรนไฮ
คือ เท่ากับอุณหภูมิของโลกภายนอก
ดังนั้นอาหารที่จะให้แม่มันในวันแรก
ๆ ควรจะต้องเป็นอาหาร
ที่ก่อให้เกิดความร้อนในตัวมันเท่านั้น
ไม่จำเป็นต้องให้อาหารประเภทบำรุงความเติบโตแต่อย่างใด
อย่างน้อยอุณหภูมิขณะคลอดและหลังคลอด
48 ชั่วโมง ควรจะเป็น 105 องศาฟาเรนไฮ
แต่จาก นั้นจะลดน้อยลงเรื่อยจนถึงปลายสัปดาห์แรกลูกสุนัขจะมีอุณหภูมิปกติและมีความสมบูรณ์
ที่คลอดนั้นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือต้องเป็นที่เงียบ
อย่าให้มีสุนัขรบกวนได้
สำหรับที่นอนลูกสุนัข
ลูกสุนัขนั้นควรเป็นหีบไม้แข็งแรง
กว้างใหญ่พอเหมาะแก่จำนวน
ลูกสุนัข แต่ถ้าหากเป็นคอกเล็ก
ๆ จะใช้หีบขาตะแคงก็เหมาะดีเหมือนกัน
ถ้าใช้ชนิดหีบปิดฝาปิดจะ
ต้องปิดเปิดได้คล่อง
ๆ
พื้นที่นอนคลอด
ควรปูด้วยกระสอบที่สะอาดหรือวัตถุอื่นซึ่งเวลาไม่ต้องการใช้จะได้
ทำลายเสียเลย โดยปกติแม่สุนัขมักจะชอบกัดแทะเครื่องปูนอนเหล่านี้เพื่อปรับปรุงที่นอนของมัน
ฉะนั้นควรให้แม่สุนัขคุ้นเคยกับที่นอนของมันสัก
1-2 สัปดาห์
ก่อนวันคลอด
การออกกำลังให้สุนัข
ขณะมีครรภ์นับว่าสำคัญมากจะละเลยเสียมิได้จนกระทั่งถึงสัปดาห์สุดท้าย
แม้ตัวมันจะหนักอุ้ยอ้ายสักเพียงไร
ก็ควรให้เดินในระยะใกล้
ๆ และที่เงียบ ๆ ควรให้เล่นกับสุนัขอื่น
ๆ บ้างเป็นครั้งคราวยิ่งใกล้วันคลอดแม่สุนัขจะเริ่มจัดรังนอนของมันด้วยการ
กัดสิ่งของที่มันพบอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
ฉะนั้นหากจะใช้ผ้าห่มดี
ๆ แล้วไม่ควรให้มันในระยะนี้
อาการแสดงว่าจะคลอดนั้นคือ
ช่องคลอดจะบวมโตและนุ่มจะมีเมือกลื่น
ๆ ไหลออกมา สุนัขจะไม่ยอมกินอาหาร
และแสดงว่าจะคลอด อาการเช่นนี้จะมาก่อนการคลอดจริงราว
ๆ 24 ชั่วโมง
ระยะที่ 2 เมื่อการคลอดจะสำเร็จผลก็ต่อเมื่อมดลูกทำการบีบรัดตัวและบีบลูกสุนัขให้ผ่านจากช่อง
คลอดออกมา ขณะนี้แม่สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดยิ่งขึ้นและร้องครวญคราง
อาจเป็นเสียงดังหรือเสียง
แหลมเป็นระยะ ๆ และก็ดังยิ่งขึ้น
ในไม่ช้าก็จะมีเมือกลื่น
ๆ ไหลออกจากช่องคลอด
ตามธรรมดา ลูกสุนัขจะโผล่หัวและขาหน้าก่อน
แต่ก็มีบ่อยที่หางออกก่อนโดยปราศจากความลำบาก
เว้นแต่จะเป็น ลูกสุนัขนั้นหัวโต
การคลอดในลักษณะอย่างนี้จะทำให้เจ็บปวดและยุ่งยาก
ขณะที่หัวสุนัขโผล่ออกมา
นั้นเองแม่สุนัขจะได้รับความเจ็บปวดและร้องดัง
ตามธรรมดาลูกสุนัขขณะคลอดจะถูกหุ้มอยู่ในถุง
เยื่อเหนียว ๆ ซึ่งแม่สุนัขจะกัดเลียเพื่อแยกให้ลูกออกมา
แต่ถ้าหากมันทำเองไม่สำเร็จ
ผู้พยาบาล ต้องคอยช่วยเหลือมันทันที
มิฉะนั้นลูกสุนัขจะตาย
ลูกสุนัขขณะคลอดออกมาจะยังคงถูกล่ามกับแม่ของมันโดยสายสะดือ
ซึ่งติดต่อไปยังรก และรก
นี้ก็ออกมาจากช่องคลอดของแม่สุนัข
หลังจากลูกสุนัขได้คลอดออกมาแล้ว
รกนี้แม่สุนัขจะกินทันที
และขบไต่ไปตามสายสะดือ
จนกระทั่งเกือบถึงสะดือของลูกสุนัข
ถ้าหากแม่สุนัขไม่ทำเช่นนั้นผู้พยาบาล
จะต้องรีบตัดสายสะดือให้ห่างสายสะดือของลูกสุนัข
1 คืบด้วยกรรไกรที่สะอาด
แล้วมัดด้วยด้าย เหนียว
ๆ สายสะดือที่แห้งจะหลุดออกมาพร้อมกับด้ายที่มัดภายในไม่กี่วัน
ต่อจากนั้นแม่สุนัขก็จะเข้าเลียลูกของมันให้แห้ง
และในขณะนี้เอง ลูกสุนัขตัวที่อยู่ในท้องก็จะ
เคลื่อนออกมา แม่สุนัขก็จะจัดการกับลูกสุนัขเช่นเดียวกับวิธีการที่กล่าวมาแล้วจนกระทั่งคลอดเป็น
ตัวสุดท้าย บางครั้งลูกสุนัขคลอดมาเร็วมากแม่ของมันไม่ทันที่จะมีเวลาเลียลูกตัวที่ออกก่อนให้แห้ง
ถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้พยาบาลต้องใช้ผ้าเช็ดตัวอุ่น
ๆ เช็ดให้แห้งแล้วนำไปไว้เสียอีกมุมหนึ่ง
อย่างไรก็ดีจะ ปล่อยให้ลูกสุนัขให้เปียกชื้นและหนาวสั่นย่อมเป็นอันตราย
ระหว่างคลอดหากแม่สุนัขแสดงอาการ
อ่อนเพลีย ควรจะให้นมอุ่น
ๆ แก่แม่สุนัขสักหน่อย
ในระหว่างที่คลอดลูกยังไม่หมด
และเมื่อคลอด หมดแล้ว
ก็ควรให้ต่อไปอีกสักถ้วยแล้วจึงปล่อยให้มันนอนกับลูกสัก1-2
ชั่วโมง หลังจากนี้จึงควร
ให้ทั้งลูกและแม่สุนัขขึ้นนอนในที่
ๆ มีความอบอุ่นและสงบเงียบ
การดูแลบำรุงเลี้ยง
สัก2-3ชั่วโมงต่อมา
แม่สุนัขก็จะออกจากที่นอนมาถ่ายมูล
ขณะนี้ควรให้อาหารน้ำอุ่น ๆแก่มัน ขณะนี้ แม่สุนัขย่อมอยู่ในอาการที่ธาตุไม่ปกติในระหว่างที่ต้องทำการคลอดลูก
และถ้าหากมันกินรกเข้าไปด้วย
นักเพาะเลี้ยงสุนัขบางท่านไม่ยอมให้แม่สุนัขกินรกหรือเครื่องในของมันเอง
แต่ก็ต้องถือว่าเป็นสัญชาติ
ญาณของสัตว์อย่างหนึ่ง
แต่ในการที่มันได้กินอวัยวะภายในสด
ๆ ของตัวมันเองเข้าไปเช่นนั้นก็ย่อมได้
รับฮอร์โมนหรือน้ำสกัดของชีวิต
การดูแลภายหลังการคลอด
หลังการคลอดสัก
2-3ชั่วโมง แม่สุนัขควรได้รับการเอาใจและควรให้ได้กินอาหารเหลว
ๆ อุ่น ๆ ถ้ามัน กินรกเข้าไปย่อมเป็นธรรมดาอยู่เองที่ท้องของมันจะไม่เป็นปกติในระหว่าง2-3วันแรกหลังการคลอด
มูลที่ถ่ายออกมาจะมีสีดำคล้ายน้ำมันดิน
ทั้งนี้เนื่องจากโลหิตที่กินเข้าไป
ในระยะวันหรือสองวันแรก
ควรสังเกตุแม่สุนัขให้ดี
เพราะว่าลูกสุนัขยังค้างอยู่ในท้องหรือไม่
ตามที่ทราบกันมาอาจเป็นเช่นนั้นได้
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะสังเกตได้ว่า
แม่สุนัขจะพยายามเบ่งเหมือนเมื่อทำการคลอดใหม่
ๆ ในกรณีเช่น นี้ให้ไปตามสัตว์แพทย์มาทำการผ่าตัดโดยด่วน
ผู้ที่มีความชำนาญอาจใช้นิ้วมือที่ชุบยาฆ่าเชื้อแล้วล้วง
เข้าไปในช่องคลอดเพื่อทำการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
หากเห็นว่ามีอะไรผิดปกติจะเรียกสัตว์แพทย์
มาทำการผ่าตัดโดยไม่ชักช้า
บางทีอาจมีอุปสรรคอันร้ายแรงเนื่องจากตำแหน่งที่ลูกสุนัขติดอยู่นั้นจำ
เป็นต้องทำการผ่าตัดเอาออกทันที
ในกรณีนี้ การชักช้าอยู่นานเท่าไรก็เป็นอันตรายมากเท่านั้น
เป็นธรรมดาที่แม่สุนัขจะมีโลหิตออกมาเปื้อนเปรอะอยู่เป็นเวลาหลายวันหลังการคลอดแล้ว
มันจะค่อย ๆ จางลง ๆ และจะหยุดในปลายสัปดาห์ที่1หรือ2
ตามธรรมดาอุณหภูมิ(ปรอท)
จะขึ้นสูงหนึ่งดีกรีหรือ
ราว ๆ นั้นหลังคลอดแล้วมันควรจะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติในราว
8 ชั่วโมง ต่อมาถ้ามีไข้ขึ้นสูงก็จะแสดง
ให้ทราบว่า มีอะไรผิดปกติและต้องคอยตรวจสอบดูแลโดยไม่ชักช้า
การคลอดผิดปกติ
คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับการคลอดที่ไม่ปกติผิดไปจากธรรมดาก็ควรพบให้สัตว์แพทย์ช่วยโดยด่วน
ความลำบากในการคลอดอาจเป็นด้วยว่าลูกสุนัขอยู่ในท่าผิดปกติเนื่องจากความอ่อนแอ
การหดตัว ของมดลูก หรือรูปร่างของแม่สุนัขผิดส่วนสัด
และอาการเหล่านี้ผู้สมัครเล่นไม่อาจจะแก้ให้หายได้
การกระทำง่าย ๆ บางทีอาจจะทำให้ลูกสุนัขออกมาได้แต่อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้จำเป็นต้องมีความรู้
เกี่ยวกับกายวิภาควิทยาและมีความชำนาญในการตรวจรู้ได้ว่าอะไรผิดปกติและสามารถแก้ไขให้ดีได้
หลักสำคัญยิ่งในการคลอดก็คือให้ตามสัตว์แพทย์
ถ้าแม่สุนัขทำการเบ่งจนอ่อนกำลังลง
(มีอาการ หอบเบ่ง) มาเป็นเวลาถึง
3ชั่วโมงแล้ว ลูกสุนัขยังไม่ออก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถุงเยื่อหุ้มโผล่มา
และแตกไปแล้ว อาการเช่นนี้ควรจัดการโดยด่วนไม่ว่าเป็นการคลอดลูกสุนัขตัวแรกหรือตัวอื่นถัดไป
ก็ตาม การทอดระยะออกของลูกสุนัขจะห่างกันราว
15ถึง30 นาทีแต่อาจจะออกถี่กว่านี้ก็ได้
การดูแลระหว่างคลอด
ควรจะสังเกตุดูด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดีถ้าผิดปกติควรให้ไปตาม
หมอสัตว์แพทย์ ทันที
ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการที่จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียแม่สุนัขที่ดีไป
